HEINKEL TOURIST The Rolls-Royce of scooters
HEINKEL TOURIST
The Rolls-Royce of scooters
สกู๊ตเตอร์เที่ยวนาซี สวย คลาสสิก ดีกรีระดับ…หรู!!!
บอดี้ด้านข้าง เห็นความเปรียบต่างค่อนข้างชัด 103 A1 ยังดูกลมมน ส่วน 103 A2 ขยับแบบมีเน้นความเหลี่ยมยาว และติดตั้งส่วนของคิ้วแต่งด้านข้างในลักษณะที่แตกต่างกันด้วย สวยทั้งคู่ พิสมัยโมเดลไหน เลือกแบบนั้น
เก็บไม่หมดสักที กับสกู๊ตเตอ์หน้าตาแปลกๆ ชาติพันธุ์จากเยอรมนี ด้วย “จุดขาย” ที่วางให้เป็นรถ “สกูตเตอร์ท่องเที่ยวระดับหรู” แน่นอนความ “พิเศษ” นี้ต้องไม่ธรรมดา เพราะปูมหลังเกิดขึ้นจากโรงงาน “อากาศยาน” เทคโนโลยีล้ำสมัยของยุค เลยได้รับการจัดสรรมาให้แบบไม่มียั้ง เครื่องยนต์ 4 จังหวะ วางบนโครงสร้างเฟรมที่แข็งแกร่ง นุ่มนวลด้วยลูกยังซับ แถมได้อาภรณ์ในแบบคิ้วสันเงาวับ นี่คือความ “หรูหรา” ที่มาพร้อมการยอมรับว่าให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ในสายงาน…รถสกู๊ตเตอร์!!!!
เพราะเกิดจากแบบพิมพ์เขียวเดียวกัน มันก็จะอลังการหน่อย บอดี้ตีโป่ง วางไมล์ทางกลมไว้ตรงกลาง ด้านบนเป็นแร็คหน้า พับเก็บได้ ข้อเปรียบต่างของ 2 โมเดลนี้คือรุ่น 103 A2 นั้น ติดตั้งไฟเลี้ยวคู่ที่บังลมหน้า ตามข้อกฎหมายที่บังคับในปี 1960
163,110 คัน…คือยอดการผลิตรวมรถสกู๊ตเตอร์หน้าตาแปลกๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การสร้างสรรค์ของวิศวกรรมชาวเยอรมนีในนาม Heinkel’s Factory ระหว่างปี 1953-1964 จากความที่ต้อง “เอาตัวรอด” หลังพ่ายสงคราม โรงงาน “เครื่องบิน” ในเยอรมนีก็ยอมผันตัวเองสู่ธุรกิจแขนงใหม่ตามสนธิสัญญา ไลน์การผลิตอุตสาหกรรมหนักในเมือง Karlsruhe ปรับแนวทางด้วยรถต้นแบบหน้าตาแปลกประหลาดในปี 1949…ทว่า…ก็เห็นมันเป็นรูปร่างในเชิงพาณิชย์จริงๆ ก็ราวปี 1953 ในงานโชว์ยนตรกรรม Brussels Motor Cycle Show…!!!
มาตรวัดต่างๆ ที่ออกแบบเหมือนวางกลับด้าน ความตั้งใจเพื่อให้รับกับบาร์ท่อกลม ครอบทับด้วยแผ่นเหล็กขึ้นรูป พร้อมสวิตช์บาร์ต่างๆ เท่าที่จำเป็น
ซับหน้าเป็นตะเกียบคู่ พร้อมโช้คซัพนุ่มๆ แค่นี้ก็ตะลอนสบายๆ เทคโนโลยีที่พัฒนามาจากระบบลงจอดของเครื่องบิน
Tourist 101 A 0
จากประสบการณ์ด้าน “การบิน” เฟรมเหล็กท่อกลมถูกใช้เป็นโครงสร้างหลัก ที่ถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นเหล็กขึ้นรูป โช้คอัพหน้าติดตั้งระบบรับซับแรงตะเกียบคู่แบบเทเลสโคปิก ส่วนด้านหลังเป็นสวิงอาร์มซับโช้คไฮดรอลิก เครื่องยนต์บล็อกแรกนั้นมีปริมาตรกระบอกสูบที่ 149 ซี.ซี. (59 มม.x54.5 มม.) โอเวอร์เฮดวาล์ว 7.2 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยโซ่ภายในแคร้งค์เครื่องยนต์ที่ห่อหุ้มไว้อย่างมิดชิด และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 56 ไมล์/ชม. และสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 137 ไมล์/แกลลอน ซึ่งโรงงานเรียกขานรถรุ่นนี้ว่า “Tourist” มันประสบความสำเร็จทันทีในฐานะเป็นรถอเนกประสงค์ที่ขับขี่สบายระดับหรู บังลมด้านหน้าสามารถป้องกันผู้ขับขี่ทั้งจากลมปะทะ และสิ่งสกปรกต่างๆ และที่สำคัญมันประหยัดและคุ้มค่าเงินเป็นที่สุด…จน…ได้รับคำนิยามแถมขนานนามการันตีสรรพคุณอย่างยิ่งใหญ่ว่า…นี่คือ…“โรลส์-รอยซ์ของรถสกู๊ตเตอร์” (Rolls-Royce of scooters)
แป้นวางเท้าแผ่นใหญ่ ใช้วิธีการหล่อขึ้นรูปพร้อมรอยสากเป็นบั้งๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของบอดี้
Tourist 102 A 1
สิงหาคม 1954 เวอร์ชันอัปเกรดของบล็อกเครื่องยนต์แบบ 3 เกียร์ 101 A0 ทำการปรับเปลี่ยนชุดไฟเครื่องยนต์จาก 6 โวลต์เป็น 12 โวลต์ และติดตั้งระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยไฟฟ้า พร้อมกับขยายความจุของกระบอกสูบเพิ่มขึ้นเป็น 175 ซี.ซี. (60 มม.x61.5 มม.) 9.2 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที มันแรงกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะยาวสำหรับผู้โดยสาร และตะแกรงสัมภาระท้าย มีการปรับเปลี่ยนระบบจ่ายเชื้อเพลิงจาก Pallas 18/10 มาเป็น Bing 1/18/5…ไม่เฉพาะรถสกู๊ตเตอร์เท่านั้นที่โรงงานขนมาสร้างฐานทางการเงิน อะไหล่เครื่องกลหลายรายการก็สนับสนุนเม็ดเงินให้ Heinkel นั้น มั่นคง มั่งคั่ง
เปิดเบาะขึ้นมา ในบอดี้มีส่วนของถังน้ำมัน และเห็นหัวเครื่องยนต์เพื่องานเซอร์วิส ส่วนคาร์บูเรเตอร์ หัวเทียน ต้องเข้าทางด้านข้างผ่านช่องเปิดข้างบอดี้
Tourist 103 A 0 (Chassis : 140001/Engine : 435001)
เครื่องยนต์แสนประหยัดขนาด 175 ซี.ซี. ยังคงได้รับการขานรับ ขณะที่โมเดลนี้โรงงานหันมาให้ความสนใจที่ระบบขับเคลื่อน ชุดเกียร์เดินหน้าใหม่แบบ 4 สปีดได้รับการติดตั้ง รวมถึงคาร์บูเรเตอร์ของ Pallas ก็ถูกนำกลับมาใช้ รถรุ่นใหม่ของปีนี้ปรับเปลี่ยนล้อหน้า/หลังจากขนาด 8 นิ้ว เป็น 10 นิ้ว และขยายหน้ายางมาใช้ซีรีส์ 400…Tourist รุ่นนี้มีแฮนเดิ้ลบาร์แบบจักรยาน (แฮนด์แป๊บ/สายเกียร์นอก) หลังบังลมมีแผ่นกรอบติดตั้งมาตรวัด นาฬิกา ระบบสตาร์ตไฟฟ้าเครื่องยนต์เป็นขนาด 12 โวลต์ 90 วัตต์ ของ Siba…เรามีโอกาสได้เห็น 103 A 0 เวอร์ชันส่งออกในตลาดอังกฤษในปี 1955 ซึ่งรู้จักกันในนามของผู้นำเข้าอย่าง Excelsior Heinkel Tourist ราคาขายออกห้างรวมภาษีที่ 238 ปอนด์ หากเหมารวมออปชันมาตรวัดนาฬิกาเพิ่มอีก 3 ปอนด์ หรือรวมตะแกรงพร้อมล้ออะไหล่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 13 ปอนด์ ช่วงแรกของการบุกตลาดอังกฤษ มันสร้างยอดขายได้น่าสนใจ และด้วยความแปลกและขับขี่นิ่มนวล เลยทำให้ Excelsior Heinkel Tourist ครองส่วนแบ่งการตลาดตามเป้าได้อยู่พักใหญ่…1957 Excelsior Heinkel Tourist ต้องปรับลดราคาขายลงมา เพราะหากเมื่อเทียบราคาในท้องตลาด เครื่องยนต์ 150 ซี.ซี. รถ LD/B ของ Lambretta มีราคาเพียง 164 ปอนด์ ส่วน GS 150 ซี.ซี. ของ Vespa มีราคาเพียง 188 ปอนด์ มันต่ำมากเมื่อเทียบกับ Tourist และหากมองถึงรถยนต์ขนาดเล็กของ Bond Minicar ก็ต่ำกว่าเพียง 50 ปอนด์…กระทั่ง…รถยนต์จากบริษัทเดียวกันอย่าง Heinkel Cabin Cruiser ก็ต่างกันเพียง 100 ปอนด์…เท่านั้น!!!
ทั้งคู่ขับหลังด้วยโซ่ บนโครงสร้างเฟรมที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว มันถูกวางบนโครงสร้างที่มีลูกยางซับ เรียกว่านุ่มนวลในทุกย่านความเร็ว เหตุผลนี้แหละที่ได้รับการยอมรับว่ามันนุ่ม หรูหรา และเหมาะเป็นรถเดินทางในเขา จุดเปรียบต่างเห็นจะเป็นที่ฝาครอบสเตอร์หลัง 103 A1 เป็นฝาอะลูมิเนียม ส่วน 103 A2 นั้นเป็นฝาเหล็กปั๊มขึ้นรูป
Tourist 103 A 1 (Chassis : 170001/Engine : 520001)
หน้าตารวมๆ ของ Tourist ตั้งแต่เริ่มต้นมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ยกเว้นปรับเปลี่ยนชุดแฮนเดิ้ลบาร์พร้อมแผ่นครอบติดตั้งมาตรวัดไว้ที่ด้านบน เครื่องยนต์มีการปรับแก้ไขเล็กน้อย โดยเพิ่มลูกปืนเพลาข้อเหวี่ยงเป็น 2 ตัว ระบบสตาร์ตไฟฟ้าเครื่องยนต์เปลี่ยนมาใช้ของ Bosch…และ...เพื่อช่วยให้ Tourist นุ่มนวลขึ้น และลดเสียงรบกวนจากช่วงล่าง เครื่องยนต์จึงถูกวางยึดด้วย “ลูกยางแท่นเครื่อง” ซึ่งถือเป็นระบบแบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ของโรงงาน…ระหว่างนี้ชื่อของ Heinkel เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแข่งขันต่างๆ อาทิ Sport Meeting กระทั่ง Endurance Trials รถดุ้นๆ ของโรงงานสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง…กระทั่ง…ใบปลิวประชาสัมพันธ์รถพาณิชย์ยังถูกนำมาใช้เป็น “จุดขาย” อ้างอิง
Tourist 103 A 2 (Chassis : 225001/Engine : 570063)
รถโมเดลสุดท้ายของ Heinkel มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาอีกครั้ง บอดี้ด้านท้ายถูกปรับให้เรียบเนียนและยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นที่สำหรับติดตั้งชุดของไฟท้ายที่รวมไฟเลี้ยวเข้าไว้ด้วย มันรวมถึงไฟเลี้ยวด้านหน้าที่ติดตั้งไว้ที่บังลม…กุมภาพันธ์ 1962 โมเดลส่งออกภายใต้ผู้นำเข้ารายใหม่อย่าง
Hans Motors จึงเข้ามาทำตลาดในอังกฤษ ณ เวลานั้นบริษัทยังเป็นแฟรนไชส์ในแบรนด์ของ Lambretta รวมถึง Punch อีกด้วย Tourist ต้องแข่ง “ยอดขาย” กับแบรนด์อื่นๆ ทว่า ก็ทำได้ไม่ดีนัก…กระทั่ง… โรงงานในเยอรมนีเองยังต้องปรับแนวทางใหม่เพื่อ…ลดต้นทุน!!! สกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กที่ย่อส่วนจาก Tourist เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 125 ซี.ซี. 6.25 แรงม้า น้ำหนัก 105 กก. เลือกใช้ล้อหน้า/หลัง ขนาด 12 นิ้ว รู้จักกันในนาม Roller 112 และ Heinkel 150 สกู๊ตเตอร์น้ำหนักเบาอีกคัน ได้เครื่องยนต์สูบตั้งแบบ 2 จังหวะ ทวินพอร์ท 150 ซี.ซี. 9.5 แรงม้า สตาร์ตไฟฟ้า ก็ถือเป็นสกู๊ตเตอร์โมเดลสุดท้ายที่เรามีโอกาสได้เห็นจากโรงงาน…ของ…Heinkel’s Factory!!!
HEINKEL TOURIST SCOOTER
101 A0 1953-1954 150 ซี.ซี. จำนวนผลิต 6,500 คัน
102 A1 1954-1955 175 ซี.ซี. จำนวนผลิต 17,500 คัน
103 A0 1955-1957 175 ซี.ซี. จำนวนผลิต 34,060 คัน
103 A1 1957-1960 175 ซี.ซี. จำนวนผลิต 50,050 คัน
103 A2 1960-1965 175 ซี.ซี. จำนวนผลิต 55,000 คัน
HEINKEL TOURIST
รถ HEINKEL TOURIST
รุ่น / ปี 1959-103 A1 / 1960 -103 A2
เจ้าของ เอก / เก่ง
เครื่องยนต์ OHV 1 สูบ 4 จังหวะ 174 ซี.ซี.
9.2 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที
กระบอกสูบ/ช่วงชัก 60 / 61.5 มม.
ระบบไฟ 12 โวลต์ 90 วัตต์ / ไดสตาร์ตไฟฟ้า
ระบบเกียร์ 4 เกียร์ (มือ)
ระบบคลัตช์ เปียก (หลายแผ่น)
ระบบขับเคลื่อน โซ่
ระบบโช้คอัพ (หน้า / หลัง) ตะเกียบคู่โช้คซับ / สวิงอาร์มแขนเดี่ยวโช้คน้ำมัน
ระบบเบรก (หน้า /หลัง) ดรัมเบรกม็ม้H
ล้อ / ยาง (หน้า / หลัง) 4.0 x 10 นิ้ว
ความจุเชื้อเพลิง 2 ½ แกลลอน
ความเร็วสูงสุด 63 ไมล์ / ชั่วโมง (101 กม. / ชม.)
STORY/ PHOTO : SCOOTER MANIA!