SCOMADI X The WHO
สโกมาดิ ต่อแจ็ค The Who
ออกสกู๊ตเตอร์ Limited Edition 500 คัน…ทั่วโลก!!!
โรเจอร์ ดัลเทรย์ (Roger Daltrey) นักร้องนำ The Who จากยุคเริ่มต้น และ พีท ทาวเซนด์ (Pete Townshend) มือล้างผลาญกีร์ต้าในตำนาน สมาชิกที่ยังหลงเหลือ ปัจจุบันยังคงเดินสายโชว์คอนเสิร์ต และชื่อของพวก The Who ได้สลักเสลาลงบนรถสกู๊ตเตอร์ DNA อังกฤษ ที่ผลิตออกมาเพียง 500 คันทั่วโลก
เปิดตัวโมเดลใหม่ได้จังหวะ จะโคลน พอดิบ พอดี กับงาน “รวมมิตรล้อเล็ก” สกู๊ตเตอร์เทรนเซทติ้ง ที่ยังคงถูกชูเป็น “เรือธง” หลากค่าย หลายสีสัน สารพันเครื่องหมายการค้า “สโกมาดิ” พญาเสือดำ DNA สังเคราะห์จากเกาะอังกฤษคืออานิสงค์รถ “สลิมไลน์” ที่ปเนตำนานหนึ่งของโลก ไม่ธรรมดา บนแผ่นดินสยาม นามนี้ยิ่งเด่นชัด เมื่อคอนเนคชั่นบรรลุผล รถสีเพลนๆ ถูกจับแต่งองค์อย่างมีสไตล์ มันคือตำนาน “มอดส์” (Modernish) ที่กลับมีชีวิต ชีวาอีกครั้ง ภายใต้เรื่องเล่าผ่านวงดนตรีร็อคชั้นครูนามนาม…The Who…!?!?!
“สโกมาดิ” ต่อแจ็คสำเร็จ ขุดโปรเจ็กส์พิเศษสำหรับลูกค้า ซึ่งได้รับเกียรติจากวงดนตรีร็อคระดับตำนานขวัญใจชาว Mod อย่างวง The Who ด้วยสีสันของโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานการออกแบบ “สุดเอ็กซ์คลูซีฟ” ให้กับลวดลายของรถสกู๊ตเตอร์ “สโกมาดิ” รุ่น The Who – Limited Edition ที่จะผลิตขึ้นมาเพียง 500 คันเท่านั้น และสำหรับแฟนคลับชาวไทย ในวันเปิดตัวสกู๊ตเตอร์ The Who – Limited Edition ทั้งรุ่น TT 125i และ TT200i เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าสโกมาดิ แฟนๆ วง The who และผู้ที่สนใจมาจับจองเป็นเจ้าของอีกด้วย
โดยรถ สกู๊ตเตอร์ The Who – Limited Edition ในรุ่น TT 125i และ TT200i นอกจากลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ The Who แล้ว ลูกค้ายังสามารถระบุเลขรถที่ต้องการ (LIMITED SERIAL PLATE NUMBER) พร้อมรับของกำนัลสุดพิเศษ เสื้อ SCOMADI MOD JACKET
สิทธิพิเศษภายในงาน 50 ท่านแรก ที่จองซื้อรถรับเพิ่ม SPECIAL LIMITED HELMET (เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น) ซึ่ง Scomadi TT125i – The Who “Limited Edition” เปิดราคาไว้ที่ 139,000 บาท ในขณะที่ Scomadi TT200i – The Who “Limited Edition” ขยับราคามาที่ 199,000 บาท พร้อมรับโปรเพิ่มเติมด้วยการขยายเวลาในการรับประกันรถสกู๊ตเตอร์ สโกมาดิทุกรุ่น จากเดิม 2 ปี 20,000 กิโลเมตร เป็น 3 ปี 30,000 กิโลเมตร
The WHO
ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1964 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดิมตั้งชื่อวงว่า The High Numbers วง The Who (เดอะฮู) เป็นที่รู้จักกันดีด้วยพฤติกรรมห่ามๆ ด้วยการทำลายเครื่องดนตรีบนเวทีแสดงสด โดยเฉพาะ พีท ทาวเซนด์ (Pete Townshend) มือกีตาร์ของวง เป็นที่รู้จักกันดีในการฟาดกีตาร์ ส่วนมือกลองอย่าง คีธ มูน (Keith Moon) ก็ได้ฉายาศาสดากลองกระเดื่องคู่ เพราะนำมาใช้กับวงเป็นคนแรกๆ
The Who เป็นวงร็อคระดับตำนาน ที่บางเพลงนำเสนอเรื่องราวที่อิงแอบ เสียดสี การเมือง จึงไม่ถูกจริตนักกับผู้บริหารประเทศมากนัก ทว่า ได้ใจกลุ่มหนุ่มสาวหัวก้าวหน้า คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการแสวงหาแนวทางอิสระภาพในทุกมิติของชิวิต
ในระยะแรกของวง มีภาพลักษณ์ตัวเองว่าเป็นพวก “มอดส์” (MOD) โด่งดังมากจากเพลงสัญลักษณ์วัยรุ่นในยุคนั้น คือเพลง My Generation (1965) ต่อมาในปี ค.ศ.1978 คีธ มูน ก็เสียชีวิตเพราะเสพยาเสพติดเกินขนาด ก่อนได้มือกลองมาใหม่ ชื่อ เคนนี โจนส์ (Kenney Jones)แต่ต่อมาอีก 3 ปีก็ต้องแยกวงกัน แล้วก็กลับมารวมตัวกัน จนกระทั่ง ปี 2002 จอห์น เอนทวิสเทิล มือเบสของวงก็เสียชีวิตเพราะเสพโคเคนเกินขนาดอีก เหมือนว่าวงจะแตกถาวร ทว่า พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2004 โดยออกตระเวนแสดงสดทั่วโลก และยังได้มือกลองอย่าง แซ๊ก สตาร์คกี้ (Zak Starkey) มือกลองของวง Oasis และเป็นลูกชายของ ริงโก้ สตาร์ อดีตมือกลองของวง The Beatles มาเป็นมือกลองให้กับเดอะฮู…จนกระทั่งปัจจุบัน!!!
ภาพความรุ่นแรงที่ถูกนำเสนอผ่านการแสดงบนเวทีของ The Who เมื่อ พีท ทาวเซนด์ (Pete Townshend) ทำลายกีร์ต้าเป็นปัจเจก ภาพเจนตาสำหรับผู้ชม ทว่า ก็ถูกมองว่าเป็นความกร้าวร้าว รุ่นแรง ที่ส่งผ่านถึงเด็กรุ่นใหม่ ที่กลับมองว่าเขาคือฮีโร่
Quadrophenia ภาพยนต์ดราม่าของอังกฤษ ที่ออกฉายในปี 1979 ปมเรื่องราวชีวิตของวง The Who ที่เกิดขึ้นในปี 1973 วิถีมอด์ อิสระชน ดนตรี สกู๊ตเตอร์ อันธพาล ยาเสพติด สารพันชีวิตเล่า ที่กำกับโดย Franc Roddam
Dr. Marten X The WHO
และเพราะเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ของ MOD นั้นมีที่มา มันคือเรื่องราวที่สั่งสมจนเป็น “วัฒนาธรรมจากโลกยุคกลาง” จึงถูกผนวกเข้ากับแบรนด์สินค้าได้นานาชนิด เพราะมี “เลือดแท้” ทั่วโลก เครื่องหมาย “เป้าปืน” นี้จึงยังคง “อมตะ” และไม่เคยจางไปจากโลกยุคเสรี
The Who ใช้ตราสัญลักษณ์ The Who’s Mod นั้นเป็นรูปวงกลมสีน้ำเงิน และวงกลมด้านในเป็นสีแดง (อยู่บนหน้าปกของอัลบัม Tommy พร้อมด้วยลูกศรขึ้นจากตัวอักษร O) ไม่ใช่เรื่อง “บังเอิญ” และเพราะ พีท ทาวเซนด์ (Pete Townshend) มือกีต้าร์เลือดร้อน ก็เคยใส่รองเท้าคู่เก่าของ Dr. Martens รุ่น 1460 ขึ้นทำการแสดงในปี 1967 ช้าไปหน่อย ทว่า ก็กลับมาแล้ว ภายใต้ 2 ตำนานระดับโลกแห่งเกาะอังกฤษ โดยที่แบรนด์ Dr. Martens ได้หยิบเอา Graphic ดังกล่าวมาสร้างสรรค์ลงบนตัวรองเท้าได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าหนังเรียบรุ่น Classic อย่าง 1460 และ 1461 แถมเพิ่มไลน์ผลิตเอาใจสาวกเจนท์ใหม่ ภายใต้แพทเทิร์นคงเป็นรองเท้า Sneakers แบบ Slip-On ที่ออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจ เรียกว่าเห็นแบบนี้ สาวก The Who และ Dr. Martens ก็คงไม่รั้งรอ รีบออกไปเสาะแสวงหามาเป็นเจ้าของโดยพลัน แถมไม่ต้องถ่อไปไกลถึงอังกฤษ บ้านเรา “ไทยแลนด์” ก็ยังได้อานิสงค์ ชอบกด…ไลค์ ใช่กด…แชร์ แต่หากอยากได้…ก็…กดตังค์…!?!?!
STORY : SCOOTER MANIA!/
PHOTO : SCOMADI THAILAND / Dr. Martens / https://en.wikipedia.org
