1980 HARLEY-DAVIDSON FXB STURGIS
1980 HARLEY-DAVIDSON FXB STURGIS 1/ 1470
แบบฉบับของรถจากตระกูล Dyna Glide ที่จับมาใส่ “สีดำ” ในลุคดุดัน ครอบแผงคอล่าง บ่งว่ามันคือ Sturgis โมเดลพิเศษจริงๆ
ถือเป็นรถรุ่น “พิเศษระดับตำนาน” อีกคันที่ออกแบบโดย Willie G Davidson เพื่อต้อนรับการกลับมาของชุมชนคนเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในนาม Sturgis Rally (สเตอร์จีส แรลลี่) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ที่แบล็คฮิลล์ เซาท์ดาโกตา…FXB Sturgis คือรุ่นรถอย่างเป็นทางการ ซึ่งใช้เครื่องยนต์รหัส “B” ที่มีปริมาตรกระบอกสูบที่ 80 คิวฯ (1,340 ซี.ซี.) 67 แรงม้า และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 106 ไมล์/ชม. (170 กม./ชม.) ภาพลักษณ์ของรถที่ดุดันด้วยรถ “สีดำทั้งคัน” ทว่า บริเวณขอบล้อเพิ่มเส้น “สีส้ม” ดูโดดเด่น สำหรับความพิเศษของรถรุ่นนี้อยู่ที่ “ระบบขับสายพาน” ที่โรงงานเลือกใช้ทั้ง 2 ชุด (Twin Belt) ด้วยเหตุผลที่ว่า มันนุ่มนวล ลด การกระชาก แถมไม่ต้องดูแลรักษามาก เพราะไม่ต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นเหมือนชุดขับด้วยโซ่
รถเดิมบาร์ต่ำ ปรับลุคนิดหน่อยในแบบช็อปเปอร์ เน้นทางไกล นอกนั้นเดิมในแบบ “แรลลี่ไรด์” ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง อาชาแห่งแบล็คฮิลล์ เซาท์ดาโกตา ในนามของ Sturgis
เครื่องยนต์ “เสื้อเหล็ก” สีดำออกห้าง รวมถึงเคสเกียร์ขนาด 80 คิวฯ (1,340 ซี.ซี.) เรียกว่าดุดัน สมเจตนา จุดตายอีกอย่างของ Sturgis
ขอบล้อหน้า/หลัง เอกลักษณ์ของ Sturgis คือเป็นแม็กฟอร์แมตโรงงาน ทว่า ขอบล้อเดินเส้น “ส้มตัดขอบเงิน” เสริมเส้นสายให้โดดเด่น และเข้ากับสีของโลโกถังบนพื้นดำและเพราะเครื่องที่แรงขึ้น เบรกหลังก็ติดตั้งดิสก์มาให้เลย
มันดูเวิร์คในทฤษฎี แต่กลับไม่เป็นดังหวัง เพราะลูกค้ากลับไม่เชื่อมั่นที่ระบบขับด้านหน้า (Primary) ด้วยสายพาน เพราะคิดว่ามันจะทนแรงบิดสูงๆ ไม่ได้ แถมยังแตกหักได้ง่ายด้วย แต่กลับไม่ได้ยินเสียงติติงชุดขับหลังเท่าไรนัก (Secondary) กระนั้น เสียงบ่นนั้นก็ดังมาเข้าหูทีมออกแบบ ด้วยเหตุนี้ทำให้รถรุ่น FXB Sturgis ผลิตออกมาเพียง 3 ปีเท่านั้น (80/1.470…81/ 3,543 และ 82/1,833 คัน) อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป เราไม่ได้ต้องการเสพความ “สมบูรณ์แบบ” อะไรมากนัก เพลานี้ FXB Sturgis กลับก้าวขึ้นมาเป็นใน 1 รถโมเดลที่ “คอลเลกเตอร์” ทั่วโลกต่างถวิลหามาครอบครอง ทว่า ก็มีไม่มากนักที่จะ…สมหวัง!!!
ขับหน้า/หลัง ด้วยเบลล์ (สายพาน) ซึ่งถือเป็นรถรุ่นแรกของ Harley-Davidson อีกด้วย ข้อบ่งชี้คือสรรพคุณที่ติดให้เห็นบนครอบสายพานว่า STURGIS TWIN BELT DRIVE
ฝาไพรมารี่ดำ “ขับหน้าสายพาน” เวิร์คทางทฤษฎี แต่ลูกค้าไม่รับ เลยผลิตแค่ 3 ปี ก่อนกลับมาขับโซ่หน้าในรุ่นถัดไป
ถังดำ โลโกส้ม รุ่นสุดท้ายที่ยังผลิตภายใต้ข้อตกลงของ AMF ก่อนที่จะซื้อกิจการคืนทั้งหมด
เบาะปรับใหม่ในลุคของสายเดินทาง 2 สเต็ป นั่งสบายหน่อย
“เอส ระดับโลก” คมสันต์ โหกลัด คนนี้เล่นลึก ทั้ง 2/4 ล้อ คันนี้ลงลิฟต์ลงมาให้ถ่ายกันเลย เรียกว่าไม่ VIP ไม่มีโอกาสได้เห็น ตอนนี้รุ่นนี้หายากจริงๆ